วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลักษะณะทางพฤษศาสตร์

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
             ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 5-10 เมตร แผ่กิ่งก้านจำนวนมาก ตั้งฉากกับลำต้นออกเป็นทรงพุ่ม ลำต้นและกิ่งก้าน มีหนามแหลมยาว แข็ง ประมาณ 1 - 2 เซนติเมตร ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว หรือสองชั้น ออกเวียนเป็นเกลียวตามกิ่ง ใบอ่อนออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ตรงปลายมีใบยอดเพียงใบเดียว ใบกลมรี ขอบใบเว้าเข้าหาเส้นกลางใบ ดูคล้ายก้างปลา มี 3-5 แฉก แผ่นใบโค้งขึ้นด้านบนเล็กน้อย สีเขียวเข้ม เป็นมันวาว ความยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ฐานใบแหลม มน หรือกลม ตามผิวใบมีต่อมน้ำมัน ดอกออกเป็นช่อแยกแขนงที่ซอกใบ คล้ายดอกกระถิน เป็นปุยๆ มีสีขาว กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมี 5-6 กลีบ เกสรเพศผู้มี 10-12 อันแยกกัน เกสรเพศเมียมี 1 อัน ผลสีเขียวคล้ายผลมะนาว รูปกลม มีขนาดประมาณ 2.5 นิ้ว เมื่อแก่จัดสีน้ำตาล เปลือกแข็งและหนามาก มีเมล็ดจำนวนมาก ผลมีรสเปรี้ยว ใช้แทนมะนาวได้ ยอดอ่อน และใบอ่อนกินสด หรือนำไปปิ้งไฟให้หอม เป็นผักได้ พบตามป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลักษณะดอก มะสัง

·       

          มะสัง

       ดอกมะสัง ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามกิ่งหรือตามซอกใบคล้ายๆ ดอกกระถิน เป็นปุยๆ มีสีขาว ก้านช่อดอกยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ส่วนก้านดอกย่อยยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร โคนก้านมีใบประดับ 1 อัน ลักษณะเป็นรูปรีหรือรูปไข่ปลายแหลม ขนาดกว้างประมาณ 1.5-2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 2.5-3 มิลลิเมตร กลีบดอกมี 5 กลีบ กลีบเป็นสีขาว แยกจากกัน ลักษณะของกลีบดอกเป็นรูปไข่กลับหรือรูปใบหอก ปลายกลีบแหลม โคนกลีบตัดตรง มีขนาดกว้างประมาณ 0.7-1 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1.4-1.8 เซนติเมตร ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ ติดกันเล็กน้อยที่ฐาน ส่วนปลายกลีบแยกเป็น 5 แฉก เป็นกลีบสีเขียวแกมเหลือง ลักษณะเป็นรูปรีหรือรูปไข่ กว้างประมาณ 3-4 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 5-7 มิลลิเมตร ดอกมีเกสรเพศผู้ประมาณ 15-20 อัน บ้างว่าประมาณ 10-12 อัน โคนก้านชูอับเรณูติดกันประมาณ 1/5 ส่วนของความยาวก้าน ปลายก้านแยกจากัน ก้านชูอับเรณูเป็นสีขาว ยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร อับเรณูติดบนก้านแบบ Basifix สีเหลืองแกมสีน้ำตาลอ่อน ยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ส่วนเกสรเพศเมีย มี 1 อัน รังไข่ superior ovary สีเขียว ลักษณะเป็นรูปโดมทรงกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-5 มิลลิเมตร ก้านเกสรอวบ มีขนาดกว้างประมาณ 1.5-2.5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ยอดเกสรจะเรียวเล็กกว่าก้านเกสรเล็กน้อย รังไข่ 5-6 ห้อง มีออวุลจำนวนมาก สามารถออกดอกได้คลอดปี
               

ลักษณะผลมะสัง


มะสัง

 ผลมีลักษณะกลม ผลเป็นสีเขียวคล้ายผลมะนาว มีขนาดประมาณ 4-12 เซนติเมตร เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เปลือกผลแข็งและหนามาก มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร เปลือกมีกลิ่นหอม ภายในผลมีเมล็ดจำนวนมาก ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปยาวรี โดยผลจะมีรสเปรี้ยวสามารถนำมาใช้แทนมะนาวได้





ลักษณะใบมะสัง


มะสัง

ใบมะสัง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวหรือสองชั้น ปลายใบคี่ ก้านใบรวมยาวประมาณ 5-12 เซนติเมตร เรียงตัวกันแบบสลับหรือเป็นกระจุกประมาณ 2-3 ก้านใน 1 ข้อ ใบย่อยจะเกิดเป็นคู่ๆ เรียงตัวกันแบบตรงข้าม มีจำนวน 3-5 คู่ ก้านใบย่อยมีความยาวประมาณ 5-10 มิลลิเมตร ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่กลับหรือรูปรี ปลายใบแหลมหรือค่อนข้างมนหรือเว้าเข้าเล็กน้อย โคนใบแหลม ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 0.5-1.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1-3 เซนติเมตร ผิวใบเรียบเป็นมัน ด้านท้องใบเห็นต่อมน้ำมันกระจายชัดเจน


ลักษณะของต้นมะสัง

ลักษณะของมะสัง


·         ต้นมะสัง มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซีย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงของต้นประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านขนานกับลำต้นหรือออกตั้งฉากกับลำต้น ต้นมีกิ่งก้านจำนวนมาก เปลือกต้นเป็นร่องเล็กๆ เปลือกแตกเป็นเกร็ดรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร ต้นแก่เป็นสีเทาถึงดำ ตามลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมยาว และแข็งตรง ยาวประมาณ 1-5 เซนติเมตร ที่กิ่งอ่อนมีขนขึ้นปกคลุม ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด และวิธีการปักชำกิ่ง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยที่อุดมสมบูรณ์ มีความชุมชื้นอย่างสม่ำเสมอ ชอบแสงแดดจัด และควรปลูกไว้กลางแจ้ง พบขึ้นได้ทางภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้โดยจะขึ้นตามป่าเต็งรังป่าดิบแล้งป่าโคก          ทุ่งนา

การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด มะสัง

การขยายพันธุ์

            ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด หรือหากขุดล้อมจากป่าธรรมชาติการปลูกเลี้ยง แต่จะต้องเป็นต้นขนาดไม่โตนัก เพราะเมื่อได้รับการกระทบกระเทือน มะสังจะฟื้นตัวได้ยาก หากผู้ปลูกเลี้ยงไม่มีความชำนาญ


วิธีการเพาะเมล็ดกระสัง    
1.นำเมล็ดกระสังไปล้างน้ำให้สะอาด เหลือแต่เมล็ดสีเหลือง
2.ให้นำไปแช่นำอุ่นประมาณ 1 นาที  แล้วล้างออก(ล้างน้ำอุ่นทุกเช้า ถ้ามีเวลา) แล้วแช่นำไว้ประมาณ 5 - 7 วัน เปลี่ยนน้ำทุกวัน
3.ให้นำเมล็ดไปโรยในดินที่เตรียมเพาะในภาชนะที่เตรียมไว้ เช่น กระบะ หรือ กระถางก็ได้ โดยโรยเมล็ดทั้งหมด(แนะนำให้ใช้แกลบดำ + ดินร่วน ) 
4.เมล็ดที่เพาะก็จะงอกเป็นต้นอ่อน มีใบเลี้ยง รอให้ต้นแข็งแรง

การปลูก
เตรียมกะถางสำหรับปลูก

ใส่ดินลงในกระถาง



นำเมล็ดมะสังลงปลูก





ใส่ปุ๋ย รดน้ำเป็นประจำ







ลักษณะทั่วไปของมะสัง

ลักษณะทั่วไปของมะสัง
            เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ชอบขึ้นในดินปนทราย พบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อมีอายุมากลำต้นจะมีเปลือกขรุขระ ตามกิ่งก้านมีหนามคมแหลม ติดอยู่เป็นระยะๆ ใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะคล้ายใบมะขวิด แต่มีขนาดเล็กกว่า มีสีเขียวมัน ใบดก ผลกลมมีสีเขียวเปลือกหนาและแข็ง ขนาดผลใกล้เคียงกับผลส้มเกลี้ยง เนื้อผลมีรสเปรี้ยวรับประทานได้                  


                                          

ประโยชน์ของมะสัง

   ประโยชน์ของมะสัง
                                                          
 1. ผลมะสังมีรสเปรี้ยว สามารถนำมาใช้แทนมะนาวได้ โดยใช้ปรุงน้ำพริก หรือใส่แกง นอกจากนี้ยังใช้    รับประทานและนำมาทำน้ำผลได้อีกด้วย
        2. ยอดอ่อนและใบอ่อนมะสังใช้รับประทานเป็นผักสด หรือนำไปปิ้งไฟให้หอมก็ใช้รับประทานร่วมกับลาบ    ก้อย ซุปหน่อไม้
        3. ในปัจจุบันนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ ทำเป็นไม้แคระประดับหรือไม้ดัด เนื่องจากมีความสวยงามจากเปลือกที่ขรุขระ มีรูปทรงของต้นที่สวยงาม ออกใบ    ดกและมีขนาดเล็ก และง่ายต่อการดัดเพราะกิ่งก้านมีความเหนียว

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ประวัติส่วนตัว

ประวัติส่วนตัว
ชื่อ น.ส ณัฏฐวิกา รำเพย ม.4/7 เลขที่28 ชื่อเล่น ปิ่น
โรงเรียนสุราษพิทยา
สีที่ชอบ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง เเสด เเดง
อาหาร ก๋วยเตี๋ยว
คติ รักในวัยเรียน เหมือนจุดเทียน กลางสายฝนเเต่ฉันไม่สนเพราะฉันกางร่ม ก่อนจุดเทียน
ดาราที่ชอบ เจนี่ เทียนโพสุวรรณ
อาชีพตอนนี้ นักเรียน
อาชีพที่ใฝ่ฝัน เจ้าของโรงเเรม 5 ดาว ผู้กำกับละคร เจ้าของเกาะ เจ้าของไร่องุ่น
สถานที่ที่อยากไป ฮ่องกง